ผู้เสียหาจากกรณีนิคมอุสาหกรรม

ผู้เสียหายจากการก่อสร้างนิคมอุสาหกรรม

ทนายมานิฏฐ์ เล็กโล่ง ประธานสภาทนายความจังระยอง ทนายธนาคมน์ ง้าวสุวรรณ ประธานชมรมทนายความจังหวัดระยอง คณะกรรมการสภาทนายความจังหวัดระยองและคณะกรรมการชมรมทนายความจังหวัดระยอง ได้นำชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน เสียหาย จากผู้ประกอบเข้าร้องเรียนต่อ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดระยอง โดยในการนี้ นาย สุพจน์ ต่ออาจหาญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ได้มารับหนังสือและมอบให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เกิดเหตุและสามารถตกลงกันได้


ข่าวโรงงานถมดินสูง ทำน้ำท่วมบ้าน

ลงพื้นที่เพื่อตรวจดูความเสียหาย

ชาวบ้านร้องสภาทนายความจังหวัดระยองขอความเป็นธรรม เรื่อง โรงงานสร้างบ่อเก็บน้ำขนาดใหญ่ ทำน้ำทะลักเข้าบ้านต้องพากันหนีน้ำจนถูกไฟดูดเสียชีวิต

วันที่ 10 กรกฎาคม 2566 เวลา 10.00 น. ชาวบ้านในพื้นที่ ต.มาบข่า อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง เข้าร้องขอความเป็นธรรมกับสภาทนายความจังหวัดระยองนายมานิฏฐ์ เล็กโล่ง ประธานสภาทนายความจังหวัดระยอง กรรมการภาค 2 กรรมสภาจังหวัดระยอง กรณีโรงงานสร้างบ่อเก็บน้ำขนาดใหญ่ ทำน้ำทะลักเข้าบ้านต้องพากันหนีน้ำจนถูกไฟดูดเสียชีวิต และทุกวันนี้ มีบ้านก็ยังเข้าอยู่ไม่ได้ โดยผู้สื่อข่าวไทยรัฐ ทีวีช่อง 9 พร้อมทีมงาน ลงพื้นที่ ที่ ต.มาบข่า อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป



รับเรื่องของเรียจากประชาชนผู้เสียหาย

ยื่นหนังสือศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดระยอง

เข้าพบรองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง

ประธานสภาทนายความและชมรมทนายความจังหวัดระยองพร้อมคณะนำผู้เสียหายเข้าพบรองนายสุพจน์ ต่ออาจหาญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง


ยื่นหนังสือต่อสำนักงานยุติธรรมจังหวัด

ประธานสภาทนายความและชมรมทนายความจังหวัดระยองพร้อมคณะนำผู้เสียหายยื่นหนังสือขอความช่วยเหลือจากสำนักงานยุติธรรมจังหวัดระยอง

ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง

ในวันที่ 17 กรกฎาคม 2566 เวลา 10.00 น. ทนาย มานิฏฐ์ เล็กโล่ง ประธานสภาทนายความจังหวัดระยอง ทนาย ณัฐวุฒิ สิ้นเคราะห์ รองประธานสภาทนายความจังหวัดระยองพร้อมคณะกรรมการสภาทนายความจังหวัดระยอง ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดระยอง อำเภอนิคมพัฒนา เทศบาลตำบลมาบข่าพัฒนา

โดยกรณีแรก ที่เกิดขึ้นใน วันที่ 22 มิถุนายน 2566 เวลา 03.00 น. ได้มีฝนตกหนัก ทำให้กระแสน้ำพร้อมกับดินโคลนของโครงการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมฯ ได้กัดเซาะจนกำแพงบ้านพังถล่ม ทับเสาไฟฟ้าหักลงมาทับบ้านผู้ร้องเรียน จนเป็นเหตุให้กระแสไฟฟ้ารั่ว มีผู้เสียชีวิตจากการถูกไฟฟ้าช็อต 1 ราย ในกรณีดังกล่าวมีผู้ได้รับผลกระทบทั้งหมด 30 ราย โดยบริษัทฯ ได้จ่ายเงินเยียวยาแล้ว 20 ราย อยู่ระหว่างดำเนินการอีก 10 ราย ในกรณีการเยียวยาครอบครัวที่มีผู้เสียชีวิตจะได้มีการนัดเจรจากันต่อไป

ในกรณีที่สอง ผู้ร้องเรียนได้รับความเดือดร้อนจากการขุดบ่อหน่วงน้ำของบริษัทฯ ซึ่งห่างจากที่ดินของผู้ร้องเรียนเพียง 3 เมตร เมื่อฝนตกทำให้น้ำกัดเซาะที่ดิน สวนยางพารา และบ้านเรือนในบริเวณใกล้เคียงจนได้รับความเสียหาย ในกรณีดังกล่าว บริษัทฯ จะดำเนินการสร้างกำแพงกั้นดินระหว่างที่ดินของชาวบ้าน และบริษัทฯ โดยให้มีระยะร่นจากแนวเขตที่ดินของผู้ร้อง 10 เซนติเมตร และจะทำร่องระบายน้ำ เพื่อป้องกันมิให้น้ำฝนไหลลงในที่ดินของชาวบ้านและให้ไหลลงสู่บ่อหน่วงน้ำต่อไป

ในการนี้ อำเภอนิคมพัฒนา ,สภาทนายความจังหวัดระยอง ,ผู้เสียหายที่ได้รับความเดือดร้อน จะจัดให้มีการจัดประชุมเจรจาเพื่อหาข้อตกลงร่วมกันของทั้ง 2 กรณี ในวันที่ 24 กรกฎาคม 2566 เวลา 14.00 น. ณ ที่ว่าการอำเภอนิคมพัฒนา


สภาทนายความจังหวัดระยองและชมรมทนายความจังหวัดระยองไกล่เกลี่ยและเป็นพยานในการรับมอบเงินค่าเสียหาย

เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม ๒๕๖๖ ท่านนายอำเภอ นิคมพัฒนา ทนายมานิฏฐ์ เล็กโล่ง ประธานสภาทนายความจังระยอง ทนายธนาคมน์ ง้าวสุวรรณ ประธานชมรมทนายความจังหวัดระยอง พร้อมคณะกรรมการและสมาชิกสภาทนายความจังหวัดระยอง ได้ร่วมเป็นสักขีพยานในการรับมอบเงินค่าสินใหมทดแทน จากผู้แทนบริษัท CPCG ให้แก่ผู้เสียหายจำนวนเงิน 4,517,792 บาท ณ อำเภอนิคมพัฒนา จังหวัดระยอง

ในการนี้ทางผู้เสียหายได้มอบกระเช้าขอบคุณมายังสภาทนายความจังหวัดระยองและชมรมทนายความจังหวัดระยอง